วันที่ 1 เมษายน 2009 ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ รายงานผลการแข่งขันออกมาให้แฟนบอลทั่วโลกรับทราบกันว่า
โบลิเวีย 6 - อาร์เจนติน่า 1
หากคนที่ไม่ได้ตามชมการถ่ายทอดสดคงคิดว่านี่เป็นเรื่องโกหกวัน April's Fool Day แน่ๆ เพราะแข่งกันวันเมษาหน้าโง่พอดี
ทีมฟ้าขาวของดีเอโก้ มาราโดน่า ต้องการทุกแต้มในช่วงนั้นเพื่อผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ให้ได้ แต่ออกไปโดนโบลิเวียอัดยับที่ ลา ปาซ
เป็นที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่ากรุง ลา ปาซ ของโบลิเวีย เป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนือระดับน้่ำทะเลเยอะมาก อากาศบางเบา คนที่ไม่คุ้นเคยจะหายใจลำบากเหนื่อยง่าย การมาเล่นที่นี่จึงมักเป็นงานยากของผู้มาเยือน
สนามเหย้า สนามใหญ่สุดในโบลิเวีย ที่ทีมชาติใช้เสมอคือ เอสตาดิโอ เอร์นานโด ซิเลส ตั้งชื่อตามประธานาธิบดีคนที่ 31 ของประเทศ ที่ปกครองโบลิเวียในช่วงปี 1926-1930 คือ เอร์นานโด ซิเลส เรเยส
สนามแห่งนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 11,932 ฟุต หรือ 3,637 เมตร นับเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่งสำหรับเจ้าถิ่น
หากวัดกันในแง่ผลงานโดยรวม คุณภาพนักเตะ โบลิเวีย คงเป็นชาติที่อ่อนที่สุดในละตินอเมริกาด้วยซ้ำ แต่ทีมใหญ่กว่าทั้งหลายก็เคยเอาชื่อมาทิ้งที่ลา ปาซ
ในฟุตบอลโลก USA 94 รอบคัดเลือก โบลิเวีย เคยพลิกเอาชนะบราซิล 2-0 ยัดเยียดความพ่ายแพ้ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีให้กับบราซิล
ชาติอื่นๆ อาจจะเข้าใจว่านี่คือความได้เปรียบในฐานะเจ้าถิ่น แต่ไม่ใช่สำหรับบราซิล
ฟลาเมงโก้ ทีมดังของบราซิล เคยร้องเรียนว่าพวกเขาจะไม่มาเตะกับสโมสรในโบลิเวีย ในครั้งหนึ่งที่เจอกับ เรอัล โปโตซี่ ในศึก โกปา ลิเบร์ตาโดเรส
ขณะที่สหพันธ์ฟุตบอลบราซิล ก็พยายามร้องเรียนเรื่องนี้เรื่อยมา ไม่ใช่แค่โบลิเวีย และลา ปาซ แต่พวกเขาอ้างว่าเมืองหรือสนามที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากเกินไป ไม่ควรจัดแข่งฟุตบอล เพราะอันตรายต่อนักเตะ
สองสามปีมานี่เองที่มีภาพเนย์มาร์ ไปเตะที่โบลิเวีย แล้วถ่ายภาพห้องแต่งตัวของทีมชาติบราซิล หลายคนเอาหน้ากากออกซิเจนมาใส่เพื่อช่วยในการหายใจ
ไม่ใช่แค่โบลิเวีย แต่ในเปรู และบางเมืองของโคลอมเบีย และเอกวาดอร์ ที่อยู่ในเขตเทือกเขาแอนดีส ต่างก็ได้รับผลกระทบจากการร้องเรียนนี้
ในที่สุดในเดือนพฤษภาคม 2007 ฟีฟ่า ก็ตัดสินใจห้ามไม่ให้สนามที่มีความสูงเกิน 2,500 เมตร (8,200ฟุต) จากระดับน้ำทะเล จัดการแข่งขันระดับนานาชาติ แม้ 2 สัปดาห์ต่อมา ฟีฟ่า จะผ่อนปรน ให้ได้ถึง 3,000เมตร metres (9,800ฟุต) ซึ่งจะทำให้ ลา ปาซ เป็นเมืองหลักในการจัดเกมระดับทีมชาติเมืองเดียวที่อยู่สูงเกินลิมิต
เมื่อฟีฟ่า ออกมาห้ามแบบนี้ทำให้ อีโว โมราเลส ประธานาธิบดี ออกมาประท้วงทันที บอกว่านี่ไม่ใช่แค่การแบนโบลิเวีย แต่เป็นการแบนความแตกต่างทางฟุตบอล ฟีฟ่ากำลังทำสิ่งที่เรียกว่าแบ่งแยกทางฟุตบอล (football apartheid เหมือนกฏหมายแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้) พร้อมทั้งจะยืนเอกสารประท้วงเป็นทางการไปยังฟีฟ่า และเรียกร้องให้หลายชาติเข้าร่วมแคมเปญด้วย
การแบนของฟีฟ่าหนนี้ ทำให้หลายชาติไม่เห็นด้วย และมองว่าไม่ควรห้ามแข่งแม้จะเป็นสนามที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากก็ตาม เนื่องจากนั่นเป็นส่วนหนึ่งของการได้เปรียบ เสียเปรียบ ในฐานะทีมเหย้าอยู่แล้ว
หนึ่งในเสียงดังในโลกฟุตบอลที่สนับสนุนโบลิเวีย ก็คือ ดีเอโก้ มาราโดน่า และ"เสือเตี้ย" ก็ทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ด้วยการนำทีม อดีตนักเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า มาเล่นฟุตบอลกับทีมรวมดาราโบลิเวีย ที่นำโดยประธานาธิบดี อีโว โมราเลส ที่สนาม เอสตาดิโอ เอร์นานโด ซิเลส โดยเกมนี้อาร์เจนติน่าเอาชนะไป 7-4 และมาราโดน่า ลงเล่นถึง 60 นาที
มาราโดน่า แสดงให้เห็นว่าถ้าคนอายุ 47 ปีอย่างเขา สามารถลงเล่นที่นี่ได้ แล้วทำไมนักเตะที่หนุ่มกว่า ฟิตกว่า จะมาเตะที่นี่ไม่ได้
ความพยายามเป็นผล CONMEBOL หรือสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งอเมริกาใต้ ได้ส่งจดหมายที่รับรองและสนับสนุนโดยองค์กรฟุตบอลของทุกชาติในอเมริกาใต้ ยกเว้นบราซิล เพื่อให้ฟีฟ่ายกเลิกการแบนสนาม
เดือนพฤษภาคม 2008 ฟีฟ่า ประกาศยกเลิกการแบน ทำให้สนามของทุกชาติสามารถกลับมาใช้จัดการแข่งขันได้ตามปกติ
2 ปี หลังจากเป็นกระบอกเสียงใหญ่ ช่วยให้ฟีฟ่า และประชากรในโลกฟุตบอลได้เห็นว่าการเล่นในสนามที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ใช่ปัญหา ดีเอโก้ มาราโดน่า ก็มาประสบความหายนะที่นี่
กับการพาทีมชาติอาร์เจนติน่ามาโดน โบลิเวีย ถล่ม 6-1 เป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับที่สุดของทัพฟ้าขาวในรอบ 60 ปี เหมือนว่า สิ่งที่ มาราโดน่า ได้ทำไปนั้นกลับมาย้อนทิ่มแทงตัวเอง
ทว่าแทนที่ มาราโดน่า อาจจะกล่าวโทษเรื่องสภาพแวดล้อมที่อยู่สูงถึง 3,637 เมตรแห่งนี้ เสือเตี้ยกลับแสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจนักกีฬา และยืดอกอย่างลูกผู้ชาย เมื่อบอกว่าผลการแข่งขันนัดนี้ ต้องยกเครดิตให้นักเตะของโบลิเวียทุกคนตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปจนถึงตัวสำรอง
บราซิล ชาติเดียวที่พยายามให้มีกฏห้ามจัดแข่งที่สนามความสูงระดับนี้มาโดยตลอด ก็มาพบกับความพ่ายแพ้เป็นการตอกย้ำอีกครั้ง ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 ครั้งเดียวกันนั้น หลังจากอาร์เจนติน่า มาแพ้ 1-6 บราซิล ก็มาแพ้ไป 1-2
โบลิเวีย เก็บชัยชนะได้ 4 นัดจากทั้งหมด 18 นัดในรอบคัดเลือก แน่นอนว่าชัยชนะทุกนัดของพวกเขาเกิดขึ้นยามเฝ้าบ้าน เอสตาดิโอ เอร์นานโด ซิเลส แห่งนี้เอง
ถึงแม้ว่า เอสตาดิโอ เอร์นานโด ซิเลส จะเป็นสนามอยู่สูงที่มีชื่อเสียงที่สุด แต่นี่ก็ไม่ใช่สนามที่อยู่สูงที่สุดในโลก เพราะยังมีอีกถึง 3 สนามที่ตั้งอยู่สูงกกว่านี้
อันดับ 3 สนาม เอสตาดิโอ วิคตอร์ อากุสติน อูการ์เต้ 3,960 เมตร (12,992 ฟุต) ในโปโตซี่, โบลิเวีย
อันดับ 2 สนาม มูนิซิปัล สเตเดี้ยม เอล อัลโต้ 4,090 เมตร (13,419 ฟุต) ใน เอล อัลโต้ โบลิเวีย เช่นกัน
และอันดับ 1 สนาม เอสตาดิโอ ดาเนียล อัลซิเดส การ์ริออน 4,380 เมตร (14,370 ฟุต) ตั้งอยู่ใน เซร์โร่ เด ปาสโก้ ประเทศเปรู
ส่วนใครกำลังหาเว็บไซด์อันดับ 1 ล่ะก็ต้องนี่เลย Sbobet777 ติดต่อเลยที่ https://line.me/R/ti/p/@777SBTZ หรือ 08-44-9990 77, 88 , 99
---------------------------------------------
เห็นก่อน อ่านก่อน !!
กด "ติดตาม" และเลือก "เห็นโพสต์ก่อน (See First) "
https://www.facebook.com/cheerball/
บทความดีๆ เรื่องราวกีฬาฟุตบอล
เรานำเสนอให้คุณได้อ่านทุกวัน
---------------------------------------------