ใกล้จะจบซีซั่น 2016/17 ไปทุกที.... การแข่งขันทุกลีกยุโรปก็เริ่มมีความชัดเจนเรื่องการลุ้นแชมป์เพิ่มมากขึ้นและสถานการณ์บางลีกก็ยังคงเข้มข้นเรื่อยๆเช่นกัน วันนี้ทางเราจึงขอยกตารางของ 3 ลีกชั้นนำมาให้ได้ทราบกันครับและมาดูกันว่าทีมใดต้องมาเจอกับนัดที่เหลือที่หฤโหดไปกว่ากัน...1. พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เริ่มกันที่ลีกที่ชาวไทยต่างคุ้นเคยกันดีอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สถานการณ์การลุ้นแชมป์กลับมาเข้มข้นขึ้นอีกครั้ง หลัง เชลซี จ่าฝูงต้องสะดุดไปบ้างช่วง 5 เกมล่าสุดทั้งตอนที่เจอกับ "ปราสาทเรือนแก้ว" และ "ปีศาจแดง" เป็นเหตุให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่กำลังมาแรงจนหยุดไม่อยู่ไล่ตามมาเหลือเพียง 4 คะแนนเท่านั้น ขณะที่การแข่งขันยังเหลืออีก 5 เกมเท่านั้นเสียด้วย แน่นอนครับว่าต่อจากนี้หากใครสะดุดอีกแม้แต่เกมเดียวก็อาจจะมีสิทธิ์หมดลุ้นแชมป์กันได้เลยเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าการที่ต้องเจอกับทั้ง อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เลสเตอร์ ซิตี้ ดูจะเป็นก้างขวางคอที่ทำให้ลูกทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ต้องเจอปัญหาใหญ่มากกว่าสโมสรจ่าฝูงในโค้งสุดท้ายเสียอีกครับ...ตัวความหวังของทั้งสองทีมและเกมที่เหลือโค้งสุดท้ายเชลซี ตัวความหวัง: ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าสายพันธ์กระทิงดุยังคงความดุดันไม่เปลี่ยนแปลงกับการเล่นให้ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังฤดูกาลนี้ยิงในลีกไปถึง 19 ลูก แถมมีลูกเล่นแพรวพราวและความกระหายด้านการแข่งขันอย่างที่หลายคนรู้จักกันดี แน่นอน 5 เกมที่เหลือการเล่นคู่กับ เอแด็น อาซาร์ จะมีบทบาทสำคัญต่อการลุ้นแชมป์สูงมากชัวร์ๆ!เกมที่เหลือ: เอฟเวอร์ตัน, มิดเดิลสโบรช์, เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน, วัตฟอร์ด, ซันเดอร์แลนด์ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ตัวความหวัง: แฮร์รี่ เคน แนวรุกตัวฉกาจเลือดผู้ดียังคงเป็นปัจจัยหลักของ "ไก่เดือยทอง" ซึ่งแม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนไปบ้างในฤดูกาลนี้ แต่เขาก็ซัดตาข่าวได้มากถึง 20 ประตูไปแล้วจนกลายมาเป็นรองดาวซัลโวคนปัจจุบัน ซึ่งมั่นใจได้เลยว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะยังคงวางเป็นตัวหลักตลอด 5 เกมที่เหลือแน่นอนเกมที่เหลือ: อาร์เซน่อล, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เลสเตอร์ ซิตี้, ฮัลล์ ซิตี้2. ลา ลีกา สเปน อันดับถัดมาเป็นลีกสูงสุดแดนกระทิงดุที่สองทีม "เอล กลาซิโก" ต่างยังคงขับเคี่ยวกันอย่างเมามันช่วงท้ายซีซั่น ซึ่งปัจจุบันแม้จะมีคะแนนเท่ากันที่ 78 แต้มและ บาร์เซโลน่า เพิ่งจะเอาชนะคู่แข่งสำคัญมาได้หมาดๆคาถิ่น ซานเตียโก เบร์นาเบว แต่ทางด้าน เรอัล มาดริด ก็ยังเหนือกว่าเล็กน้อยด้วยการมีเกมการแข่งขันเหลือมากกว่า 1 นัด ส่งผลให้โอกาสเก็บคะแนนให้สูงกว่าทีมจากแคว้นคาตาลันยังมีอยู่มากกว่า แต่หากพูดถึงสภาพความฟิตทีมที่น่าจะได้เปรียบกว่าคงจะเป็น "เจ้าบุญทุ่ม" ที่เหลือเหลือเพียงเกม ลา ลีกา ไปยาวๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยบอล โกปา เดล เรย์ ผิดกับ "ราชันชุดขาว" ที่ยังกรำศึกหนักในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปด้วยนั่นเองครับ!ตัวความหวังของทั้งสองทีมและเกมที่เหลือโค้งสุดท้ายบาร์เซโลน่า ตัวความหวัง: ลิโอเนล เมสซี่ เพิ่งจะทำประตูที่ 500 ให้กับตัวของเขาในการรับใช้สโมสรถิ่น คัมป์นู มาได้เมื่อเกม "เอล กลาซิโก" ที่ผ่านมา ก่อนที่เกมล่าสุดเจอกับ โอซาซูน่า ก็ยังยิงไปถึง 2 ลูก เขานับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่สุดของทีมในแนวรุกก็ว่าได้ ปัจจุบันเขายิงไปแล้วถึง 33 ลูกให้กับต้นสังกัดในลีกซีซั่นนี้เกมที่เหลือ: เอสปันญ่อล, บียาร์เรอัล, ลาส ปัลมาส, เออิบาร์เรอัล มาดริดตัวความหวัง: คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นับเป็นหนึ่งในสองนักเตะที่ถูกยกให้แข็งแกร่งที่สุดในโลกเวลานี้เช่นเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งแม้จะวัย 32 ปีไปแล้ว เขาก็ยังคงรับบทบาทสำคัญในแนวรุกให้กับ "ราชันชุดขาว" มาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบางเกมเขาถูกจับพักเพื่อรักษาความฟิตเพิ่มมากขึ้นและนั่นเป็นสัญญาณว่าท้ายฤดูกาลจะต้องกลายมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมอีกครั้งแน่นอนในการแข่งขันทุกรายการที่เหลือนั่นเองเกมที่เหลือ: เซลต้า บีโก้, บาเลนเซีย, กรานาด้า, เซบีย่า, มาลาก้า3. ลีก เอิง ฝรั่งเศส สุดท้ายผมขอเลือกพูดถึงลีกสูงสุดแดนนํ้าหอมที่แม้จะดรอปกว่าลีกอื่นๆบางแห่ง แต่ปีนี้พวกเขาขับเคี่ยวกันยันนัดสุดท้ายแน่นอน หลังฤดูกาลนี้ โมนาโก มาด้วยฟอร์มร้อนแรงสุดๆด้วยการขึ้นนำเป็นจ่าฝูงด้วยการเก็บ 80 แต้มเทียบเท่ากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กระนั้นพวกเขาก็ยังเหลือการแข่งขันมากกว่า 1 นัดและมีการทำประตูลูกได้เสียมากกว่าชัดเจน พูดกันตามตรงบอกได้ยากว่าใครน่าจะมีโอกาสปาดหน้าคว้่าแชมป์มาได้ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างไร้พ่ายในลีกกันอย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงโค้งสุดท้ายดู โมนาโก จะเจอคู่แข่งที่สบายกว่า "เปแอสเช" อยู่เล็กน้อย เนื่องจากแชมป์เก่ายังต้องเจอ นีซ ในเกมถัดไปด้วยตัวความหวังของทั้งสองทีมและเกมที่เหลือโค้งสุดท้ายโมนาโกตัวความหวัง: คิเลียน เอ็มบัปเป้ เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่กำลังได้รับคำชื่นชมและความสนใจอย่างต่อเนื่อง หลังในฤดูกาลนี้นอกจากยิงในลีกไป 13 ประตูแล้ว ยังสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ โมนาโก ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกด้วย ซึ่งวัยเพียง 18 ปีมีโอกาสที่เขาจะพัฒนาฝีเท้าได้อีกมากจริงๆเกมที่เหลือ: ตูลุส, น็องซีย์, ลีลล์, แซงต์-เอเตียน, แรนส์ปารีส แซงต์-แชร์กแมงตัวความหวัง: เอดินสัน คาวานี่ เรียกได้ว่าก้าวขึ้นมาทดแทนการเป็นหัวใจในเกมรุกของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช อย่างเต็มตัว หลังฤดูกาลนี้ยังคงได้รับความไว้วางใจและยิงในลีกไปแล้วถึง 31 ลูก ซึ่งทราบหรือไม่ว่าเขายิงเปิดสกอร์ลูกแรกแต่ละนัดรวมแล้วถึง 16 ประตูอีกด้วย ซึ่งจำนวนเกมที่เหลือก็ดูไม่น่าแปลกใจนักหากได้เห็นเขาเป็นดาวซัลโวของลีกสูงสุดแดนนํ้าหอมฤดูกาลนี้ต่อไปเกมที่เหลือ: นีซ, บาสเตีย, แซงต์-เอเตียน, ก็องPic : Google, Zimbio