เซบีย่า พลิกเชือด ผีแดง 2-1 ทะยานไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 6
อัพเดตเมื่อ : August 17, 2020 6:38am โดย : top
และก็เป็นไปตามคาด แฟร์นานเดส รับหน้าที่สังหารก่อนวิ่งเข้าสังหารด้วยสเต็ปกระโดดก่อนยิงเสียบมุมบนขวามืออย่างเฉียบขาด "ปีศาจแดง" ออกนำ 1-0
นาที 14 แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสบวกเพิ่ม แฟร์นานเดส ลากจี้ขึ้นมาก่อนไหลออกขวาให้ เฟร็ด สับขาหลอกก่อนพลิกหนี คาร์ลอส แล้วตะบันด้วยขวาหลุดเสาขวามือไปนิดเดียว
2 นาทีต่อมา เซบีย่า ลุ้นตีเสมอ จอร์ดาน แทงเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ โอกัมโปส ได้กระหน่ำมุมแคบติดบล็อกของ เด เคอา ออกหลังไป
นาที 26 เซบีย่า ตามตีเสมอสำเร็จ โอกัมโปส รับบอลริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนแทงเข้าโทษฝั่งซ้ายให้ เรกีลอน สปีดตามขึ้นมาเปิดเรียดไปเสาไกล ซูโซ่ วิ่งเข้ามาแปด้วยซ้ายจมก้นตาข่ายนิ่มๆ เป็นประตู 1-1
"ปีศาจแดง" เป๋ไปบ้างแต่ก็ยังดึงสติกลับมาตั้งเกมเดินหน้าบุกได้เป็นชุดๆ นาที 33 ป๊อกบา ไหลจากหน้าเขตโทษฝั่งขวาเข้ากลาง มาร์กซิยาล ได้บรรจงปั่นโค้งด้วยขวาตรงเส้นกรอบเขตโทษแต่ดันส่งบอลข้ามคานไปไกล
6 นาทีต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ฟรีคิกระยะร่วมๆ 35 หลา แรชฟอร์ด วิ่งเข้ามากดด้วยขวาพุ่งวาบเข้ากรอบแต่ โบโน่ ยังปัดทิ้งออกไปได้สวย
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก "ปีศาจแดง" เกือบได้เพิ่มส่งท้าย ป๊อกบา จ่ายจากกราบขวาไปหน้าเขตโทษ แฟร์นานเดส จับบอลกระเด้งขึ้นมาก่อนฮาล์ฟวอลเล่ย์ด้วยขวาระยะ 20 หลาพุ่งเข้ากรอบแต่ โบโน่ ยังทุบทิ้งได้อีกครั้ง และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 1-1
ถือเป็นช่วง 45 นาทีแรกที่ไม่น่าเบื่อ ต่างฝ่ายต่างเปิดเกมรุกเข้าใส่หวังยิงประตู ไม่มีเน้นเกมรับ ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการปรับมาเป็นการหวดแบบนัดเดียวรู้เรื่องนี่เอง ไม่มีใครได้ใช้ความได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้านเหมือนที่เคย
กลับมาต่อครึ่งหลัง ด้วยการที่รูปแบบยังไม่มีใครเหนือกว่าใครแบบชัดเจน ก็เลยยังไม่มีการเปลี่ยนตัวแก้เกมใดๆ
บอลยังไม่ขาด เซบีย่า ทำเสียบอลในแดนตัวเองก่อนบอลถูกลำเลียงเข้าเขตโทษใหม่ มาร์กซิยาล ลุยถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายแล้วตบเข้ากลางโดนสกัดออกมาแถวจุดโทษ แฟร์นานเดส หวดสวนด้วยซ้ายติดบล็อกออกหลังไป
นาที 52 ยังเป็นโอกาสของ "ปีศาจแดง" มาร์กซิยาล ไปเบียดชิงบอลจากเท้าของ บาเนก้า หลุดถึง ป๊อกบา แทงคืนให้ มาร์กซิยาล หลุดเข้าเขตโทษไปจิ้มเรียดติดขาของ โบโน่ อย่างน่าเสียดาย
เซบีย่า ชิงเปลี่ยนตัวก่อน 2 คน มูนีร์ เอล อัดดาดี้ กับ ลุค เดอ ยอง ลงแทน โอกัมโปส กับ เอ็น เนซิรี่ ใน นาที 56
ทั้งคู่ยังเปิดเกมรุกแลกแต่โอกาสจะแจ้งลดน้อยลงไป นาที 75 เซบีย่า เปลี่ยนตัวเพิ่มอีกคน ฟรังโก้ วาซเกซ ลงไปแทน ซูโซ่ ขณะที่ม้านั่งสำรองของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเงียบเชียบ
3 นาทีต่อมา เซบีย่า แซงนำ 2-1 นาบาส ดันเกมสูงขึ้นมาทางกราบขวาก่อนได้ตั้งป้อมครอสไปหน้าประตู เดอ ยอง สอดเข้าไปแปด้วยซ้ายโล่งๆ ระยะ 5 หลาจมก้นตาข่าย
กว่าจะส่งตัวสำรอง แมนฯ ยูไนเต็ด รอจนถึง นาที 87 ถึงเปลี่ยน ทิโมธี่ โฟซู-เมนซาห์, แดเนี่ยล เจมส์ และ ฆวน มาต้า ลงแทน วิลเลี่ยมส์, วาน บิสซาก้า และ แรชฟอร์ด ขณะที่ เซบีย่า ส่ง เนมานย่า กูเดล ลงไปแทน จอร์ดาน
สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ช่วงทดเจ็บ นาที 90+3 "ปีศาจแดง" ถอด กรีนวู้ด แล้วส่ง โอเดี้ยน อิกาโล่ ลงไป แต่ก็ไม่มีเวลาเหลือให้ได้โชว์อะไรเท่าไร
จบเกม เซบีย่า ตอกย้ำความเป็นเจ้าพ่อถ้วยนี้หลังเฉือนชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ฤดูกาล 2005-06
มันเหมือนไม่ใช่เรื่องบังเอิญจริงๆ สำหรับ เซบีย่า ในถ้วย ยูโรปา ลีก มันเหมือนว่าพวกเขามีพลังแฝงเสมอเมื่อได้ลงสนามในรายการนี้
ตลอด 90 นาทีที่ผ่านมา รูปเกมของพวกเขาไม่ได้เหนือกว่า ตรงกันข้าม เป็นรองเล็กๆ ด้วยซ้ำ ถ้าจะถูกเขี่ยตกรอบก็ถือว่าสมควรเพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างโอกาสดีๆ หลายครั้ง พวกเขารอดมาได้เพราะ โบโน่ งัดซูเปอร์เซฟออกมาได้หลายหน
ต้องรอดูว่าคู่ชิงของ เซบีย่า จะเป็นใครระหว่าง อินเตอร์ มิลาน กับ ชัคตาร์ โดเนตส์ค แต่บอกได้เลยว่าคงต้องหนาวๆ ร้อนๆ แน่นอนเพราะ เซบีย่า พกสถิติเข้าชิง 5 ครั้ง แชมป์ 100 เปอร์เซ็นต์
สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องบอกว่าฟอร์มแผ่วมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงโค้งสุดท้ายใน พรีเมียร์ลีก แล้ว ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องความล้าหลังกรำศึกหนัก
อีกส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะแรงจูงใจที่อาจหายไปบ้างเพราะการที่พวกเขาการันตีตำแหน่งใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ได้แล้ว ทำให้ความหมายในการคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ลดลงไป
เกมรุกของพวกเขาดูลดความกระเหี้ยนกระหือรือลงไปชัดเจน ความเฉียบคมที่เคยมีก็หายไป กลายเป็นว่าจะยิงประตูได้ก็ต้องมารอจุดโทษอีกแล้ว การใส่สกอร์ในจังหวะโอเพ่นเพลย์ดูลำบากเหลือเกิน
แต่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ควรทำได้ดีกว่านี้ในเรื่องการแก้เกม อย่างน้อยก็ควรส่งตัวสำรองให้เร็วกว่านี้ เพราะส่งไปในช่วงที่เหลือนั้น เข้าใจว่าคนที่จะพลิกเกมได้ บางครั้งก็ไม่ต้องใช้จังหวะเยอะ แต่พวกเขาก็สมควรได้เวลามากกว่านี้จริงๆ
พอเกมรุกก็ไม่สามารถแสดงอานุภาพ เกมรับที่ยังมีลูกเหวอให้เห็นเป็นครั้งคราวก็เลยปล่อยของเลย 2 ประตูที่เสียไปถือว่าเป็นความผิดพลาดในการประกบตัวในเขตโทษ
โดยเฉพาะประตูที่ 2 คู่เซนเตอร์แบ็กไม่รู้ไปยืนกันตรงไหน ปล่อยให้ เดอ ยอง ได้เข้าชาร์จโล่งๆ แบบนั้น
นี่ก็เป็นอีกจุดที่แสดงให้เห็นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังอยู่บนเส้นทางอีกไกลกว่าจะกลับไปลุ้นความสำเร็จอย่างจริงจังอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคิดจะขึ้นไปชกข้ามรุ่นกับ ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ในเวลานี้
ก็ได้แต่หวังว่า แฟร์นานเดส จะยังไม่ถอดใจกับการต้องแบกทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ เพราะไม่งั้นคงไม่เหลือความหวังอีกต่อไปสำหรับเหล่ากองเชียร์ "ปีศาจแดง"
มาจนถึงนัดชิงชนะเลิศจนได้ของ ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2019-20 เป็นเกมระหว่าง ...
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ปิดฉากฤดูกาล 2019-20 ของตัวเองเพราะยังอยู่บนเส้นทา...
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังอยู่ในภารกิจล่าแชมป์ ยูโรปา ลีก โดยต้องปะทะ เอฟซี โคเ...
| Facebook Comment |
