SCAN LINE QR CODE @cheerballth

ข่าว

[ #ขอใจสลายแค่ครั้งเดียว ]

อัพเดตเมื่อ : December 08, 2020 4:00am โดย : admin

20 เมษายน 2018 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับอาร์เซน่อล

อาร์แซน เวนเกอร์ ประกาศสละเก้าอี้ผู้จัดการทีมหลังสิ้นสุดฤดูกาล 2017/18 ทั้งที่นั่งมาอย่างยาวนานถึง 22 ปีเต็ม

แม้ตอนนั้นจะมีกระแสจากแฟนบอลบางกลุ่มจะเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนกุนซือก็ตาม เพราะมองว่าคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว

เวนเกอร์ อิ่มตัวและน่าจะหมดไฟ ไม่มีอะไรท้าทายหรือน่าตื่นเต้น วิถีหรือแนวทางการทำทีมต่างๆไม่ตอบโจทย์ฟุตบอลยุคใหม่ ส่งผลต่อความสำเร็จของทีม

ประเมินจากสถานการณ์หรือปัจจัยแวดล้อมอื่น เชื่อว่าเดิมทีกุนซือเฟร้นช์ไม่น่ามีความคิดจะแยกทาง

การลงทุนซื้อ ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมย็อง ด้วยค่าตัว 56 ล้านปอนด์เป็นสถิติสโมสร เมื่อมกราคมน่าจะยืนยันถึงความกระหายที่ยังอยากพิสูจน์ตัวเองให้ได้

สำหรับผู้จัดการทีมสักคนที่ลงหลักปักฐานมาตั้งแต่ปี 1996 ปฏิวัติผ่าตัดครั้งใหญ่ ฉีกโฉมไปอย่างสิ้นเชิง เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกนำโมเดิร์นฟุตบอลมาสู่พรีเมียร์ลีก สร้างแรงสั่นสะเทือนมหาศาล

โค่นอำนาจของแมนฯยูไนเต็ด ท้าทายความยิ่งใหญ่ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

หากไม่มี เวนเกอร์ มาคั่นจังหวะ รับรองเลยว่าปีศาจแดงจะเกรียงไกรไร้เทียมทานชนิดผูกขาด ไม่มีทีมไหนทาบได้อย่างแน่นอน

ว่ากันถึงคุณูปการของกุนซือหุ่นชลูดที่มีต่ออาร์เซน่อลแล้ว ต้องบอกว่ามากมายนับไม่ไหว จากทีมกำลังจมสู่ยุคตกต่ำภายใต้การนำของ บรูซ ริออค ที่ไร้มาตรฐานหาความแน่นอนไม่ได้

จนต้องมีการปลดพร้อมทั้งให้ สจ๊วร์ต ฮุสตัน และ แพท ไรซ์ สลับหน้ากันขึ้นมานั่้งรักษาการณ์ชั่วคราว

กระทั่งทาบทาม เวนเกอร์ มากุมบังเหียน โดยมีเสียงกูนเนอร์สมากมายตั้งคำถามว่า นี่คือใคร? มาจากไหน? ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมาก่อนเลย อย่างนี้จะไปรอดหรือ

โปรไฟล์ของ เวนเกอร์ บนเส้นทางโค้ชแทบไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ไล่ตั้งแต่คุมน็องซี่ ตามด้วยโยกมาโมนาโก จากนั้นไปทำหน้าที่ให้นาโงย่า แกรมปัส เอตในเจลีกของญี่ปุ่น

ทีนี้ลองนึกจินตนาการตามว่าทีมอย่างปืนโตไปดึงกุนซือฝรั่งเศสที่คุมทีมในลีกแดนปลาดิบมาทำงาน จะมีใครบ้างคิดว่าประสบความสำเร็จได้

โทนี่ อดัมส์ ปราการหลังกัปตันทีมเวลานั้น ยอมรับว่าพลันที่เห็นบอสใหม่ครั้งแรก นึกว่าเป็นครูสอนภูมิศาสตร์ เพราะมาดให้มาก ไม่มีเค้าของกุนซือฟุตบอลที่เก่งกาจเลย

ในขณะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็แปลกใจเช่นกันว่าทำไมอาร์เซน่อลถึงดึง เวนเกอร์ มานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมในช่วงที่สถานการณ์เริ่มจะวิกฤตอย่างที่เห็นกัน

มีกุนซือฝีมือดีไม่น้อยให้ติดต่อทาบทาม นี่ข้ามห้วยไปดึงมาจากแดนอาทิตย์อุทัยอันไกลโพ้น อีกทั้งลีกญี่ปุ่นหรือแม้กระทั่งนักเตะในเวลาดังกล่าว ไม่ได้เป็นที่ยอมรับของชาวอังกฤษเลย

ทุกคนมีสิทธิ์ ตั้งคำถามหรือแสดงความสงสัยได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่ที่น่าแปลกคือผลงานอันมหัศจรรย์ของอาร์เซน่อล เวนเกอร์ ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 2 ฤดูกาลก็กำราบแมนฯยูไนเต็ดได้สำเร็จ

จากความสงสัยเปลี่ยนไปเป็นเสียงสรรเสริญ ไม่มีกูนเนอร์สสักคนที่มาคลางแคลงใจกับกุนซือรายนี้อีกแล้ว ได้เแต่ปลาบปลื้มภาคภูมิในความสำเร็จที่มาแบบไม่คาดฝัน

ในทางกลับกัน เฟอร์กี้ ที่เคยมองมาด้วยสายตาเชิงหมิ่นแคลน ได้รู้พิษสงความร้ายกาจของกุนซือร่างโย่งเรียบร้อย เข้าใจเลยว่าหลังจบฤดูกาล 1997/98 แมนฯยูไนเต็ดตามหลังปืนโตหนึ่งก้าว จำต้องตามให้ทัน ไม่อย่างนั้นสูญเสียอำนาจอีกปีแน่

นอกเหนือจากเสริมผู้เล่นครั้งใหญ่ คว้ามาทั้ง ยาป สตัม , เจสเปอร์ บลอมควิสต์ และ ดไวท์ ยอร์ค ด้วยมูลค่ารวมกันมากกว่า 25 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่ามหาศาลในยุคนั้นแล้ว

ยังต้องเปลี่ยนรูปแบบและแนวทางการฝึกซ้อม เพื่อพัฒนาให้มากขึ้นกว่าเดิม เน้นทั้งเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา โภชนาการ ซึ่งปกติแล้วฟุตบอลอังกฤษไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไรนัก

อย่างไรก็ดีการเข้ามาของนายทุนข้ามชาติฮุบกิจการสโมสรในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะ โรมัน อบราโมวิช กับเชลซีส่งแรงกระทบใหญ่เข้ากลางลำอาร์เซน่อลเต็มๆ

ไม่ผิดนักหรอกหากจะบอกว่า "เงิน" คือตัวแปรสำคัญเปลี่ยนสถานะของปืนโต

ในขณะที่อีกหลายทีมในลีก ทุ่มงบสำหรับปรับแต่งขุมกำลังกันอย่างบ้าคลั่ง อาร์เซน่อลกลับตรงกันข้าม

เพราะเงื่อนไขของการสร้างสนามแห่งใหม่มาทดแทนไฮบิวรี่ ซึ่งมีขาดเล็กมากๆและอยู่ในบริเวณชุมชน บ้านเรือนข้างๆอัดกันแน่น ไม่อาจขยายได้อีกแล้ว จำต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล

ต่อให้มีสปอนเซอร์มาร่วมหนุน เทงบให้บางส่วนก็ยังไม่เพียงพอ ต้องกู้สถาบันการเงินมาอีกนับร้อยล้านปอนด์ด้วยกัน

เวนเกอร์ มีงบประมาณจำกัดจำเขี่ยสำหรับการซื้อผู้เล่น นอกจากนี้ยังโดนบีบให้ขายแข้งสำคัญหลายคน เพื่อแลกกับเงินนำมาจ่ายต้นและดอกเบี้ยโปะหนี้ให้หมดเร็วที่สุด

นานมากเข้ามันก็กลายเป็นปัญหาเรื้อรัง อาร์เซน่อลไม่อาจต่อสู้กับเชลซีและแมนฯยูไนเต็ดได้ ภายหลังยังมีแมนฯซิตี้โผล่ขึ้นมาอีก เวนเกอร์ จึงได้แค่คอยประคับประคองเท่านั้น

เป้าหมายช่วงหลังจึงอยู่ที่ทำอันดับติดท็อปโฟร์เพื่อไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเท่านั้นเอง ซึ่งแฟนบอลบางคนไม่แฮปปี้นัก พวกเขาอยากจะเห็นแชมป์ลีกหรือการครองเจ้ายุโรป

ลำพังแชมป์เอฟเอคัพที่กวาดมาจนสร้างสถิติมากสุด ยังไม่อาจตอบสนองได้ ความสำเร็จที่เคยสร้างไว้ กลายเป็นยาพิษที่ย้อนกลับมาเล่นงาน

เรื่องนี้กลายเป็นบาดแผลที่กัดกินความรู้สึกของ เวนเกอร์ มาตลอดและคิดว่าไม่แฟร์สำหรับตัวเขาเลย

------------------

ในวันที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ประกาศลาอย่างเป็นทางการ ความรู้สึกของแฟนบอลแตกต่างกันออกไป

มีไม่น้อยที่เศร้าสะเทือนใจ เพราะนี่คือกุนซือที่อยู่มานาน 22 ปี จนเป็นสัญลักษณ์ไปแล้ว เห็นหน้ากันมายาวนาน ผูกพันกลายเป็นส่วนหนึ่ง

บางคนโล่งใจคิดว่านี่เป็นทางออกที่เหมาะสมแล้ว ตามสถานการณ์น่าจะเป็นการจากกันด้วยดี

บางส่วนดีใจอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงคิดว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้นในไม่ช้า อาร์เซน่อลไม่ต้องการอยู่ใต้ร่มเงาของอีกหลายสโมสรอีกต่อไป

เวนเกอร์ แถลงข่าวขอบคุณทุกคน สต๊าฟฟ์ แฟนบอล เจ้าของ เจ้าหน้าที่ด้วยสีหน้าแววตาที่เรียบเฉยมากๆ ยากต่อการคาดเดาว่าข้างในคิดอะไรอยู่กันแน่

จอห์น ครอสส์ นักข่าวผู้คร่ำหวอดของเดอะ มิร์เรอร์และติดตามอาร์เซน่อลมายาวนาน ระบุว่า เวนเกอร์ ตัดสินใจก่อนจะที่โดนสโมสรปลด กลัวจะแตกหักกันจนมองหน้าไม่ติด รวมทั้งโปรไฟล์แปดเปื้อนมีมนทินด้วย

นี่คือสภาวะของคนที่หัวใจแตกสลาย ไม่คิดหรอกว่าจะต้องมาลงเอยอย่างนี้ แต่อีกทางเพื่อรักษาความสัมพันธ์กัน การเลือกที่จะเดินออกมาเองคือทางที่ดีสุดแล้ว

เวนเกอร์ จึงแตกต่างไปจาก เฟอร์กี้ ที่รีไทร์ไปแล้วยังกลับมาเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดบ่อยๆ แต่เราแทบไม่เห็นกุนซือเฟร้นช์มาชมเกมของปืนโตที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมเลย

มาวันนี้ในช่วงที่กำลังวิกฤต มิเกล อาร์เตต้า ส่อเค้าจะเอาไม่อยู่หมัด รับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากไม่ไหว มีข่าวว่าจะทาบทาม เวนเกอร์ คัมแบ็กมาช่วย

แม้จะผูกพันมากๆ แต่ไม่ได้หมายความว่า เวนเกอร์ ต้องการจะหวนคืนสู่เก้าอี้ตัวเดิม

สำหรับบางคนแล้วใจสลายครั้งเดียวมันเจ็บพอเกินกว่าจะกลับไปเสี่ยงกันอีกครั้ง

ใครที่เจ็บจากเว็บไซด์เดินอยากหาเว็บไซด์ใหม่ๆต้องนี่เลยกับ Sbobet777 ติดต่อเลยที่ https://line.me/R/ti/p/@777SBTZ หรือ 08-44-9990 77, 88 , 99
---------------------------------------------
เห็นก่อน อ่านก่อน !!
กด "ติดตาม" และเลือก "เห็นโพสต์ก่อน (See First) "
https://www.facebook.com/cheerball/