อัพเดตเมื่อ : January 10, 2021 6:25am โดย : admin
เชื่อเถอะว่าไม่มีแข้งอาชีพคนไหนมีความคิดพิสดารอย่างนี้แน่
คันโตน่า หรือ ก็องโต้ จึงเป็นทั้งตำนาน เป็นทั้งสตอรี่ของความคลาสสิกที่เล่าถ่ายทอดกันฟังอย่างไม่มีเบื่อ
ในขณะที่ บรูโน่ มาดังเปรี้ยงปร้างตั้งแต่ย้ายมาเมื่อปลายเดือนมกราคมปีที่แล้ว ใช้เวลาอย่างรวดเร็วดีดตัวเองขึ้นมากลายเป็นแข้งทรงคุณค่าที่แมนฯยูไนเต็ดจะขาดไม่ได้เลย
มันน่ามหัศจรรย์มากๆ เขาขอเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้นก็แปลงกายเป็นซูเปอร์สตาร์เลย ไม่ต้องปรับตัวปรับใจให้เสียเวลา
เพราะหากต้องใช้เวลากันจริงๆ ป่านนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คงกลิ้งตกเก้าอี้ไปเรียบร้อยแล้ว
นับเฉพาะในลีกอย่างเดียว เล่นไปแล้ว 30 นัดพอดิบพอดี 19 ประตูกับอีก 14 แอสซิสต์ ประกาศศักดาความเป็นเต้ยพรีเมียร์ลีกอย่างไม่มีทางปฏิเสธได้เลย
ต่อให้ไม่ชอบขี้หน้า เราก็ต้องยอมรับว่าไอ้หนุ่มโปรตุกีสของจริง ไม่ใช่ประเภททำเหมือนอย่างที่เคยโดนวิจารณ์ช่วงแรกๆ
ไม่ใช่แค่ฟอร์มขั้นเทพเท่านั้น แต่แพสชั่นก็มาเต็มไม่มีเม้มอีกต่างหาก หลายต่อหลายครั้งที่โชว์ให้เห็นกันแล้ว
เขาจะจริงจังมากๆ ทั้งที่มาทีหลังแต่กล้าจะออกปากสั่งเพื่อนร่วมทีม จนหวิดมีเรื่องกันเอง ไม่ว่าจะเคสกับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ในเกมยูฟ่า ยูโรปาลีกเจอเซบีย่าหรือดวลเอฟเวอร์ตันในศึกลีกคัพที่โดน เนมานย่า มาดิช ผลักอก
ขณะเดียวกันในเกมพรีเมียร์ลีกไม่นานมานี้กับวูล์ฟแฮมป์ตัน รูปเกมตึงเครียดเสมอกันอยู่ 0-0 จนกระทั่งพ้น 90 นาที ล่วงเข้าสู่ช่วงทดเวลา การเดินทางของเสียงนกหวีดสุดท้ายใกล้มาถึง
แต่แล้ว มาร์คัส แรชฟอร์ด หาจังหวะซัดแฉลบเข้าไป นักเตะแมนฯยูไนเต็ดทุกคนดีใจกันสุดๆ แต่ที่เข้าขั้นบ้าคลั่งสับกงล้อสุดฤทธิ์ไปฉลองกับเพื่อนๆคือ บรูโน่ นั่นแหล่ะ
มันชัดเจนแล้วว่า บรูโน่ ต้องการทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมเป็นผู้ชนะประสบความสำเร็จ ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยเปิดใจไปแล้ว
คำพูดมันจะไร้น้ำหนักทันที หากไม่มีการกระทำแสดงให้เห็นด้วย
ขณะเดียวกันความปราชัยที่มีให้แมนฯซิตี้ มันยังสร้างความผิดหวังให้ดาวเตะโปรตุกีสมากๆ ถึงกับระบายผ่านโซเชี่ยล คงอยู่ในอารมณ์เฟลสุดขีด
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจว่าทำไมถึงมีเสียงสนับสนุนให้แต่งตั้งเป็นกัปตันทีมไปเลย อย่าไปแคร์เรื่องระยะเวลาเลย เพราะตอนเลือก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอยู่แล้ว
โซลชา ก็ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน นี่คือแข้งที่ห้ามแตะเด็ดขาด แมนฯยูไนเต็ดจะขาดไม่ได้เลย ฉะนั้นจึงมักจะส่งลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักเตะก็เต็มที่ไม่เคยอิดออด กระหายลงทุกวินาที
มาถึงตรงนี้เรามองเห็นภาพความสำคัญและมหัศจรรย์ของ บรูโน่ แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยจะมีการนำไปเปรียบกับ คันโตน่า
แต่ในมุมมองของ คีน ความแตกต่างที่เขี่ย บรูโน่ หลุดจากความเป็นราชันผู้ยิ่งใหญ่ปีศาจแดงคือไม่อาจนำทีมชนะในเกมสำคัญได้
3 นัดในรอบรองชนะเลิศที่ บรูโน่ ออกสตาร์ตไม่อาจช่วยให้ทีมเป็นฝ่ายมีชัย ฝ่าไปถึงนัดชิงดำได้สำเร็จ
ไม่ว่าจะเป็นเอฟเอคัพแพ้เชลซีและยูโปาลีกที่พ่ายเซบีย่าเมื่อซีซั่นก่อน รวมทั้งลีกคัพกับแมนฯซิตี้ด้วย
เกมที่มีความหมาย บรูโน่ กลับเดินคอตกอยู่เสมอ อย่างนี้คงไม่อาจยกย่องให้อยู่ในระนาบเดียวกับ คันโตน่า หรอก
ว่าไปแล้ว คีน พูดไม่ผิดหรอก แต่มันน่าจะถูกเพียงแค่ครึ่งเดียว เพราะไม่ได้พิจารณาให้ถี่ถ้วน เลือกมองแค่มุมที่ตัวเองอยากจะมอง
-------------------
ย้อนกลับไปในปี 1992 เอริก คันโตน่า ย้ายมาในช่วงแมนฯยูไนเต็ดพัฒนามากขึ้นตามลำดับ ใกล้จะประสบความสำเร็จในลีกแล้ว หากไม่แผ่วปลายในฤดูกาล 1991/92 จนเสียท่าให้ลีดส์ ยูไนเต็ด
เรียกว่าขุมกำลังแข็งแกร่งมากๆ ไหนจะแก๊งคลาส ออฟ 92 ที่เป็นลูกนกหัดบิน ซึ่งกำลังจะปีกกล้าขาแข็งในเวลาถัดมา
นักเตะรอบข้าง ก็องโต้ จึงล้วนมีคุณภาพมากพอจะช่วยสนับสนุนให้สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมได้
ผู้รักษาประตูอย่าง ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล กองหลังอย่าง สตีฟ บรูซ , แกรี่ พัลลิสเตอร์ , เดนิส เออร์วิน หรือ พอล พาร์เกอร์
กองกลางก็ทั้ง ไบรอัน ร็อบสัน , พอล อินซ์ , ลี ชาร์ป , ไรอัน กิ๊กส์ , อังเดร แคนเชลสกี้ หรือ นีล เว็บบ์
ข้างหน้าก็ระดับมืออาชีพทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น มาร์ค ฮิวจ์ส หรือ ไบรอัน แม็คแคลร์
ในขณะเดียวกัน แกรี่ เนวิลล์ , เดวิด เบ็คแฮม , นิคกี้ บัตต์ หรือ พอล สโคลส์ ก็กำลังจะดังเปรี้ยงตามมาติดๆ
แล้วพอปี 1993 คีน ก็เป็นดาวรุ่งจอมดีเดือดอีกคนที่ย้ายจากน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์มาสมทบ
แล้วทีนี้ลองดูผู้เล่นรายล้อม บรูโน่ แฟร์นันด์ส ดูบ้าง
อาจจริงตรงที่ว่าหลายคนคือแข้งคุณภาพ แต่ขาดมาตรฐานความสม่ำเสมอ บางนัดดีใจหาย แต่พอคุ้มร้ายขึ้นมาก็พลาดอย่างไม่ควรให้อภัย
บรูโน่ น่าจะเป็นคนเดียวที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง รักษาระดับฟอร์มตัวเอง คงความมุ่งมั่น ทำงานหนักไม่มีหยุด
นับตั้งแต่ย้ายมาปลายเดือนมกราคมปีก่อน ได้ลงเล่นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นัดแรก รวมแล้ว 11 เดือนด้วยกัน บรูโน่ คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 3 ครั้ง
แล้วของเดือนธันวาคมก็ผ่านเข้ารอบ 8 แข้งสุดท้ายที่มีลุ้นด้วยและหากคว้าได้อีก จะเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ผงาด 4 ครั้งในรอบปฏิทินเดียว โดยที่ใช้เวลาในสนามเพียงแค่ 11 เดือน
พอจะชัดเจนแล้วว่า บรูโน่ ต้องแบกหลังแอ่นคนเดียว คนอื่นไม่ได้มาช่วยแบ่งเบาสักเท่าไร
มันไม่ค่อยแฟร์นักกับเขา หาก คีน จะมีความเห็นในแบบดังกล่าว
นอกจากนี้ไม่ควรนำมาเปรียบมวยกันด้วย ยุคสมัยที่มีช่วงเวลาแตกต่างกันเกือบ 30 ปี มันมีเงื่อนไขและตัวแปรมากมายที่ไม่อาจนำมาชี้วัดกันได้หรอก
เราควรมองว่าสิ่งที่ บรูโน่ ทำให้เห็นในสถานการณ์ปัจจุบัน เราควรยกย่องสดุดีในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ทีมอย่างแท้จริง
แม้จะยังรอเกียรติยศแรกกับแมนฯยูไนเต็ดก็ตาม
-------------
ตอนนี้ บรูโน่ กับ ก็องโต้ ต่างกันตรงที่ความสำเร็จเท่านั้น ส่วนใครอยู่บ้านเบื่อๆไม่มีอะไรทำ ให้ MYSBOBET ช่วยคุณสิครับ รับรองว่าคุณลืมไม่ลงแน่นอน ที่นี้มีความสนุกและความสำเร็จพร้อมให้คุณเริ่มต้นแบบไม่ต้องรอตลอด 24 ชั่วโมง ติดต่อเลยที่ https://line.me/R/ti/p/@my-sb99 หรือ 08-0003-1188 / 08-0003-117
---------------------------------------------
เห็นก่อน อ่านก่อน !!.png)
ต้นปี 2007 แมวมองโซนยุโรปของแมนฯยูไนเต็ดส่งรายงานข้อมูลและคลิปวิดีโอบา...
ปกติแล้ว โทนี่ โครส โลว์โปรไฟล์มากๆ ต่อให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นดาวเด่...
มีนักเตะหลายคนที่ชีวิตพลิกผันภายในแค่ระยะเวลาสั้นๆ เพราะฟุตบอล พวกแ...
จับน้ำเสียงของ มาร์โก แวน บาสเท่น ที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับ ดอนนี่ ฟาน ...
| Facebook Comment |
